ทำเนียบเกียรติยศ (Hall of Fame)

เยาวชนคุณภาพแห่งปี 2023

 

 

  1.  นายปริภัทร์ มะลีแก้ว  อายุ 20 ปี

ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จังหวัดกรุงเทพมหานคร

 

  2.  นางสาวธีตามาส ปรักมาศ  อายุ 21 ปี

ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวัสดุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จังหวัดกรุงเทพมหานคร

 

 

  3.  นายพงศกร รูสม  อายุ 22 ปี

ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาศาสตร์ สาขาเคมี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่

 

 

  4.  นายสหพล นิลบารันต์  อายุ 20 ปี

ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาโยธา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี

 

 

  5.  นายตฤณ อุทัยสาง  อายุ 21 ปี

ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาอากาศยาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จังหวัดกรุงเทพมหานคร

 

 

  6.  นายกรวิชญ์ สุวรรณ  อายุ 21 ปี

ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยมหิดล จังหวัดนครปฐม

 

 

  7.  นางสาวแพรมาศ ปาละรัตน์  อายุ 22 ปี

ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมการเงิน สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง จังหวัดกรุงเทพมหานคร

 

 

  8.  นางสาววิสสุตา ชินวงศ์สุวรรณ  อายุ 22 ปี

ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 สำนักวิชาวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาชีววิทยา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา

 

 

  9.  นางสาวปฐมาวดี รักนิ่ม  อายุ 21 ปี

ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมชีวการแพทย์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา

 

 

  10.  นางสาวธมลวรรณ มีพันธุ์  อายุ 22 ปี

ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 สำนักวิชาวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาเคมี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช

 

 

  11.  นายภัทรดา ผาเหลา  อายุ 22 ปี

ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิชาชีววิทยา มหาวิทยาลัยขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น

 

 

  12.  นางสาวอัญชลี เอ็มประโคน  อายุ 19 ปี

ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาอนามัยสิ่งแวดล้อมและสาธารณภัย มหาวิทยาลัยสวนดุสิต จังหวัดกรุงเทพมหานคร

 

 

  13.  นางสาวณิษาอร ช่วยสุข  อายุ 24 ปี

ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมโลจิสติกส์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ จังหวัดกรุงเทพมหานคร

 

 

  14.  นางสาวปรารถนา พงษ์เกื้อ  อายุ 24 ปี

ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม จังหวัดนครปฐม

 

 

  15.  นายวัชรพล เพ็งเทศ  อายุ 21 ปี

ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จังหวัดพิษณุโลก

 

 

  16.  นายสิทธิชัย สมุห์นวล  อายุ 25 ปี

ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จังหวัดนครศรีธรรมราช

 

 

  17.  นายกรชวัล เฌอมือ  อายุ 22 ปี

ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 4 คณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา มหาวิทยาลัยพะเยา จังหวัดพะเยา

 

 

  18.  นายกามารูดดีน คาเดร์ลอดิง  อายุ 23 ปี

ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 คณะวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการเกษตร สาขาวิชาสัตวศาสตร์และธุรกิจปศุสัตว์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา จังหวัดยะลา

 

 

  19.  นายนนทกร วารีนิยม อายุ 21 ปี

ศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม สาขาวิศวกรรมพลังงาน มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย จังหวัดเชียงราย

เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2566 ดร.ประสิทธิ์ ทีฆพุฒิ และคณะ ได้เดินทางไปร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารเพล สังฆทาน ยารักษาโรค และปัจจัยแด่พระภิกษุ และสามเณร ที่กำลังศึกษาพระปริยัติธรรม (สายบาลี และสายสามัญ) ณ วัดตากฟ้า พระอารามหลวง ต.ตากฟ้า อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์  โดยมีท่านเจ้าคุณ พระเทพปัญญาภรณ์ (ริด ริตเวที ป.ธ. 9) เจ้าอาวาสวัดตากฟ้า พระอารามหลวง, รองเจ้าคณะภาค 4 ,รองประธานคณะกรรมการหมู่บ้านรักษาศีล 5 ส่วนกลาง เป็นประธานในพิธีสงฆ์ 

 

วัดตากฟ้า พระอารามหลวง ได้จัดตั้งสำนักศาสนศึกษาวัดตากฟ้า และโรงเรียนศรีนภเขตวิทยา (โรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา) เพื่อเปิดการเรียนการสอนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี แผนกธรรม แผนกสามัญศึกษา เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา และเป็นการสร้างโอกาสทางการศึกษาและปลูกฝังจริยธรรมอันดีงามให้กับเยาวชนไทยที่มาจากพื้นที่ภาคเหนือและทั่วภูมิภาคที่มาบวชเรียนในวัดตากฟ้าแห่งนี้ เพื่อให้เยาวชนเหล่านี้ได้เจริญเติบโตไปเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพให้กับสังคมไทย ปัจจุบันมีพระภิกษุและสามเณรที่มาบวชเรียน ประมาณ 300 รูป โดยสามเณรที่มาบรรพชา ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

โครงการร่วมใจรักษ์สิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 19

เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2566 ดร.ประสิทธิ์ ทีฆพุฒิ ประธานมูลนิธิ และทีมจิตอาสา ได้เดินทางไปวัดจากแดง ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เพื่อบริจาคขวดพลาสติกใส PET ขนาด 1.5 ลิตร และขนาด 5 ลิตร พร้อมถุงพลาสติกใส หลอดกาแฟ แก้วดื่มน้ำ ช้อนส้อม และภาชนะพลาสติกที่ใช้บรรจุอาหารเดลิเวอรี่ ขวดบรรจุเครื่องดื่มชนิดใสและขุ่น กล่องนม UHT จานโฟมใส่อาหาร ที่ผ่านการใช้งานแล้ว โดยจิตอาสาได้เก็บรวบรวมแล้วนำมาทำความสะอาดในเบื้องต้น (เพื่อให้ทางวัดได้นำไปรีไซเคิลใหม่เป็นผ้าจีวรนาโน,ชุด PPE, น้ำมันเชื้อเพลิง, กุฏิสงฆ์) และได้ร่วมบริจาคเงินกับทางวัดเพื่อใช้ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้สืบไป ปัจจุบันวัดจากแดง มีพระภิกษุไทย พระเถระต่างชาติ และสามเณรบวชเรียน ประมาณ 74 รูป)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

วัดจากแดงนอกเหนือจากจะเป็นศาสนสถานสำหรับประกอบพิธีกรรมทางพุทธศาสนาแล้ว ทางวัดยังเปิดหลักสูตรอบรมพระปริยัติธรรมให้กับพระภิกษุสามเณร และพุทธบริษัททั่วไป ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ได้แก่ อังกฤษ สเปน โปรตุเกส อินโดนีเซีย ศรีลังกา พม่า จีน กัมพูชา ลาว เวียดนาม เป็นต้น พุทธศานิกชนสามารถร่วมอุปถัมภ์การเรียนพระปริยัติของพระภิกษุ สามเณร ได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาสำนักราษฎร์บูรณะ ชื่อบัญชี สำนักศาสนศึกษาวัดจากแดง เลขที่บัญชี 083 377873-0 ปัจจุบันทางวัดกำลังจัดทำโครงการก่อสร้างอาคารเรียนพระไตรปิฎกจากวัสดุรีไซเคิล ซึ่งจะเป็นอาคารต้นแบบที่ส่งเสริมให้คนไทยหันมาใช้วัสดุในการก่อแบบรักษ์โลกอีกด้วย


 

   

นอกจากนี้ วัดจากแดงยังเป็นศูนย์การเรียนรู้สิ่งแวดล้อมให้กับนักเรียน นักศึกษา องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ในการคัดแยกขยะ การแปรรูปเศษอาหาร การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ฯลฯ  ซึ่งถือเป็นสถานที่ที่มีความพร้อมมากในการนำขยะพลาสติก โฟม กล่องนม UHT ที่ได้รับบริจาคไปเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลที่เหมาะสม เช่น ขวดพลาสติกใส PET นำไปทำเป็นผ้าจีวรนาโน (ฝีมือตัดเย็บจีวรโดยกลุ่มแม่บ้านในชุมชน) หรือชุด PPE สำหรับใช้ในสถานการณ์โควิด 19, กุฏิสงฆ์จากกล่องนม UHT, น้ำมันเชื้อเพลิงจากถุงพลาสติก หรือขวดพลาสติก เป็นต้น ซึ่งเป็นวิธีการที่ช่วยลดปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ลดปริมาณการทำลายระบบนิเวศ ช่วยลดภาวะโลกร้อน และยังเป็นการสร้างงานให้กับคนในชุมชนใกล้เคียงซึ่งมีทั้งคนแก่และคนพิการรวมอยู่ด้วย

 

การดำเนินโครงการร่วมใจรักษ์สิ่งแวดล้อมครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 19 (เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563)   สืบเนื่องมาจากนโยบายของภาครัฐในการลดขยะพลาสติกที่กำลังเป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมของไทย ประกอบกับในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของประเทศไทย ภาครัฐได้ออกมาตรการต่างๆและขอให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ใช้นโยบาย Work from home เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  จึงเป็นผลให้พฤติกรรมในการบริโภคของประชากรส่วนใหญ่เปลี่ยนไป ผู้คนในวัยทำงานและวัยกำลังศึกษานิยมสั่งซื้ออาหารและเครื่องดื่มแบบเดลิเวอรี่กันเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาขยะพลาสติกและโฟมเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

ดร.ประสิทธิ์ และทีมงานจิตอาสา จึงได้ร่วมกันดำเนินการเก็บ รวบรวม และคัดแยกขยะขวดพลาสติก ภาชนะใส่อาหารและเครื่องดื่มที่ทำจากพลาสติก กล่องนม และกล่องโฟมที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน นำไปบริจาคที่วัดจากแดง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเข้าสู่กระบวนกำจัดขยะที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ และยังเป็นการทำให้ขยะเหล่านี้กลายเป็นผลผลิตใหม่ (Recycle) ที่นำกลับมาให้ใช้งานได้จริง อีกทั้งยังเป็นการสร้างงานให้กับคนยากจนและด้อยโอกาสที่วัดจากแดงอีกด้วย

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2566 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้จัดพิธีวางพุ่มดอกไม้ ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระสยามเทวมหามงกุฎวิทยามหาราช รัชกาลที่ 4 “พระราชบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” เนื่องในโอกาส “วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ” ณ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ซอยโยธี กรุงเทพมหานคร ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นายพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ ในการวางพุ่มดอกไม้ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว, พุ่มดอกไม้ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และพุ่มดอกไม้ของสมเด็จพระนางเจ้าสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระสยามเทวมหามงกุฎวิทยามหาราช รัชกาลที่ 4 โดยมีคณะผู้บริหารกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และผู้เข้าร่วมพิธีฯ ร่วมต้อนรับผู้แทนพระองค์

 

 

 

 

 

 

ดร.ประสิทธิ์ ทีฆพุฒิ ประธานมูลนิธิ มสวท. และคณะ ได้เข้าร่วมพิธีวางพานพุ่มดอกไม้เพื่อถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฎวิทยมหาราช (รัชกาลที่ 4) ในฐานะทรงเป็น "พระราชบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย" พร้อมกับคณะผู้บริหาร กระทรวง อว., คณะผู้บริหารหน่วยงานในสังกัด อว., ผู้แทนส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ โดยพร้อมเพรียงกัน ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4 ฯ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.)

 

 

โครงการร่วมใจรักษ์สิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 18

ดร.ประสิทธิ์ ทีฆพุฒิ ประธานมูลนิธิ และทีมจิตอาสา ได้เดินทางไปวัดจากแดง ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2566 เพื่อบริจาคขวดพลาสติกใส PET ขนาด 1.5 ลิตร และขนาด 5 ลิตร พร้อมถุงพลาสติกใส หลอดกาแฟ แก้วดื่มน้ำ ช้อนส้อม และภาชนะพลาสติกที่ใช้บรรจุอาหารเดลิเวอรี่ กล่องนม UHT จานโฟมใส่อาหาร ที่ผ่านการใช้งานแล้ว โดยจิตอาสาได้เก็บรวบรวมแล้วนำมาทำความสะอาดในเบื้องต้น (เพื่อให้ทางวัดได้นำไปรีไซเคิลใหม่เป็นผ้าจีวรนาโน,ชุด PPE, น้ำมันเชื้อเพลิง, กุฏิสงฆ์) และได้ร่วมบริจาคเงินกับทางวัดเพื่อใช้ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้สืบไป ปัจจุบันวัดจากแดง มีพระภิกษุไทย พระเถระต่างชาติ และสามเณรบวชเรียน ประมาณ 74 รูป)

 

 

 

 

 

 

 

 

 

วัดจากแดงนอกเหนือจากจะเป็นศาสนสถานสำหรับประกอบพิธีกรรมทางพุทธศาสนาแล้ว ทางวัดยังเปิดหลักสูตรอบรมพระปริยัติธรรมให้กับพระภิกษุสามเณร และพุทธบริษัททั่วไป ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ได้แก่ อังกฤษ สเปน โปรตุเกส อินโดนีเซีย ศรีลังกา พม่า จีน กัมพูชา ลาว เวียดนาม เป็นต้น พุทธศานิกชนสามารถร่วมอุปถัมภ์การเรียนพระปริยัติของพระภิกษุ สามเณร ได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาสำนักราษฎร์บูรณะ ชื่อบัญชี สำนักศาสนศึกษาวัดจากแดง เลขที่บัญชี 083 377873-0 ปัจจุบันทางวัดกำลังจัดทำโครงการก่อสร้างอาคารเรียนพระไตรปิฎกจากวัสดุรีไซเคิล ซึ่งจะเป็นอาคารต้นแบบที่ส่งเสริมให้คนไทยหันมาใช้วัสดุในการก่อแบบรักษ์โลกอีกด้วย

นอกจากนี้ วัดจากแดงยังเป็นศูนย์การเรียนรู้สิ่งแวดล้อมให้กับนักเรียน นักศึกษา องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ในการคัดแยกขยะ การแปรรูปเศษอาหาร การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ฯลฯ  ซึ่งถือเป็นสถานที่ที่มีความพร้อมมากในการนำขยะพลาสติก โฟม กล่องนม UHT ที่ได้รับบริจาคไปเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลที่เหมาะสม เช่น ขวดพลาสติกใส PET นำไปทำเป็นผ้าจีวรนาโน (ฝีมือตัดเย็บจีวรโดยกลุ่มแม่บ้านในชุมชน) หรือชุด PPE สำหรับใช้ในสถานการณ์โควิด 19, กุฏิสงฆ์จากกล่องนม UHT, น้ำมันเชื้อเพลิงจากถุงพลาสติก หรือขวดพลาสติก เป็นต้น ซึ่งเป็นวิธีการที่ช่วยลดปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ลดปริมาณการทำลายระบบนิเวศ ช่วยลดภาวะโลกร้อน และยังเป็นการสร้างงานให้กับคนในชุมชนใกล้เคียงซึ่งมีทั้งคนแก่และคนพิการรวมอยู่ด้วย

การดำเนินโครงการร่วมใจรักษ์สิ่งแวดล้อมครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 18 (เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563)   สืบเนื่องมาจากนโยบายของภาครัฐในการลดขยะพลาสติกที่กำลังเป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมของไทย ประกอบกับในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของประเทศไทย ภาครัฐได้ออกมาตรการต่างๆและขอให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ใช้นโยบาย Work from home เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  จึงเป็นผลให้พฤติกรรมในการบริโภคของประชากรส่วนใหญ่เปลี่ยนไป ผู้คนในวัยทำงานและวัยกำลังศึกษานิยมสั่งซื้ออาหารและเครื่องดื่มแบบเดลิเวอรี่กันเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาขยะพลาสติกและโฟมเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

ดร.ประสิทธิ์ และทีมงานจิตอาสา จึงได้ร่วมกันดำเนินการเก็บ รวบรวม และคัดแยกขยะขวดพลาสติก ภาชนะใส่อาหารและเครื่องดื่มที่ทำจากพลาสติก กล่องนม และกล่องโฟมที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน นำไปบริจาคที่วัดจากแดง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเข้าสู่กระบวนกำจัดขยะที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ และยังเป็นการทำให้ขยะเหล่านี้กลายเป็นผลผลิตใหม่ (Recycle) ที่นำกลับมาให้ใช้งานได้จริง อีกทั้งยังเป็นการสร้างงานให้กับคนยากจนและด้อยโอกาสที่วัดจากแดงอีกด้วย

 

 

 

 

โครงการร่วมใจรักษ์สิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 17

วันที่ 10 มิถุนายน 2566 ดร.ประสิทธิ์ ทีฆพุฒิ ประธานมูลนิธิ และทีมจิตอาสา ได้เดินทางไปวัดจากแดง ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เมื่อเพื่อบริจาคขวดพลาสติกใส PET ขนาด 1.5 ลิตร ถุงพลาสติกใส หลอดกาแฟ แก้วดื่มน้ำ ช้อนส้อม และภาชนะพลาสติกที่ใช้บรรจุอาหารเดลิเวอรี่ กล่องนม UHT จานโฟมใส่อาหาร ที่ผ่านการใช้งานแล้ว โดยจิตอาสาได้เก็บรวบรวมแล้วนำมาทำความสะอาดในเบื้องต้น (เพื่อให้ทางวัดได้นำไปรีไซเคิลใหม่เป็นผ้าจีวรนาโน,ชุด PPE, น้ำมันเชื้อเพลิง, กุฏิสงฆ์) และได้ร่วมบริจาคเงินกับทางวัดด้วย (วัดจากแดง ปัจจุบันมีพระภิกษุและสามเณรบวชเรียน ประมาณ 74 รูป)

 

วัดจากแดงนอกเหนือจากจะเป็นศาสนสถานสำหรับประกอบพิธีกรรมทางพุทธศาสนาแล้ว ทางวัดยังเปิดหลักสูตรอบรมพระปริยัติธรรมให้กับพระภิกษุสามเณร และพุทธบริษัททั่วไป และยังเป็นศูนย์การเรียนรู้สิ่งแวดล้อมให้กับนักเรียน นักศึกษา องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ในการคัดแยกขยะ การแปรรูปเศษอาหาร การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ฯลฯ  ซึ่งถือเป็นสถานที่ที่มีความพร้อมมากในการนำขยะพลาสติก โฟม กล่องนม UHT ที่ได้รับบริจาคไปเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลที่เหมาะสม เช่น ขวดพลาสติกใส PET นำไปทำเป็นผ้าจีวรนาโน (ฝีมือตัดเย็บจีวรโดยกลุ่มแม่บ้านในชุมชน) หรือชุด PPE สำหรับใช้ในสถานการณ์โควิด 19, กุฏิสงฆ์จากกล่องนม UHT, น้ำมันเชื้อเพลิงจากถุงพลาสติก หรือขวดพลาสติก เป็นต้น ซึ่งเป็นวิธีการที่ช่วยลดปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ลดปริมาณการทำลายระบบนิเวศ ช่วยลดภาวะโลกร้อน และยังเป็นการสร้างงานให้กับคนในชุมชนใกล้เคียงซึ่งมีทั้งคนแก่และคนพิการรวมอยู่ด้วย

การดำเนินโครงการร่วมใจรักษ์สิ่งแวดล้อมครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 17 (เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2563) สืบเนื่องมาจากนโยบายของภาครัฐในการลดขยะพลาสติกที่กำลังเป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมของไทย ประกอบกับในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของประเทศไทย ภาครัฐได้ออกมาตรการต่างๆและขอให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ใช้นโยบาย Work from home เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  จึงเป็นผลให้พฤติกรรมในการบริโภคของประชากรส่วนใหญ่เปลี่ยนไป ผู้คนในวัยทำงานและวัยกำลังศึกษานิยมสั่งซื้ออาหารและเครื่องดื่มแบบเดลิเวอรี่กันเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาขยะพลาสติกและโฟมเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

ดร.ประสิทธิ์ และทีมงานจิตอาสา จึงได้ร่วมกันดำเนินการเก็บ รวบรวม และคัดแยกขยะขวดพลาสติก ภาชนะใส่อาหารและเครื่องดื่มที่ทำจากพลาสติก กล่องนม และกล่องโฟมที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน นำไปบริจาคที่วัดจากแดง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเข้าสู่กระบวนกำจัดขยะที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ และยังเป็นการทำให้ขยะเหล่านี้กลายเป็นผลผลิตใหม่ (Recycle) ที่นำกลับมาให้ใช้งานได้จริง อีกทั้งยังเป็นการสร้างงานให้กับคนยากจนและด้อยโอกาสที่วัดจากแดงอีกด้วย

 

 

มูลนิธิสภาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (มสวท.)

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สถานที่ติดต่อ :

288/52 อาคารมูลนิธิ มสวท. ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220

Tel. +66(0) 2552-5200 Fax. +66(0) 2551-4422 Email : thaifstt@gmail.com 

Copyright © 2008-2015 หากมีปัญหาในการรับชมกรุณาติดต่อ Webmaster ที่ admin@thaifstt.org