เมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม 2567 ดร.ประสิทธิ์ ทีฆพุฒิ ประธานมูลนิธิ มสวท. และคณะ ได้เข้าร่วมพิธีวางพุ่มดอกไม้ ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหามงกุฎ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามงกุฎวิทยามหาราช (รัชกาลที่ 4) “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” เนื่องในโอกาส “วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ” โดยมี ฯพณฯ นายพลากร สุวรรณรัฐ (องคมนตรี) ผู้แทนพระองค์ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.), คณะผู้บริหารหน่วยงานในสังกัด อว., ผู้แทนส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ ณ บริเวณลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 4 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ซอยโยธี กรุงเทพมหานคร
โครงการร่วมใจรักษ์สิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 25
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม 2567 ดร.ประสิทธิ์ ทีฆพุฒิ ประธานมูลนิธิ และทีมจิตอาสา ได้เดินทางไปวัดจากแดง ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เพื่อบริจาคขวดพลาสติกใส PET ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมภาชนะพลาสติกที่ใช้บรรจุอาหารเดลิเวอรี่ ขวดบรรจุเครื่องดื่มชนิดใสและชนิดขุ่น ถุงพลาสติกที่ใช้ใส่เครื่องดื่ม อาหาร หรือห่อหุ้มพัสดุ ที่ผ่านการใช้งานแล้ว หลอดกาแฟ แก้วน้ำ ช้อนส้อม และกล่องนม UHT กล่องข้าว จานโฟมใส่อาหารที่ผ่านการใช้งานแล้ว โดยจิตอาสาได้เก็บรวบรวมแล้วนำมาทำความสะอาดในเบื้องต้น (เพื่อให้ทางวัดได้นำไปรีไซเคิลใหม่เป็นผ้าจีวรนาโน, ชุด PPE, น้ำมันเชื้อเพลิง, กุฏิสงฆ์, อาคารเรียน, อิฐปูพื้น) และได้ร่วมบริจาคเงินกับทางวัดเพื่อใช้ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้สืบไป โดยปัจจุบันวัดจากแดง มีพระภิกษุประมาณ 60 กว่ารูป ส่วนใหญ่เป็นพระภิกษุชาวไทย และมีพระเถระต่างชาติ ด้วย โดยทางวัดได้เปิดโครงการศึกษาพระไตรปิฎกให้กับพระภิกษุ นักบวช ฆราวาส อุบาสก และอุบาสิกา ทั้งชาวไทยและต่างชาติ (เอเชีย ยุโรป) รวมกว่า 400 รูป/คน ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ อีกด้วย
วัดจากแดงนอกเหนือจากจะเป็นศาสนสถานสำหรับประกอบพิธีกรรมทางพุทธศาสนาแล้ว ทางวัดได้เปิดหลักสูตรอบรมพระปริยัติธรรมให้กับพระภิกษุสามเณร และพุทธบริษัททั่วไป ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ได้แก่ อังกฤษ สเปน โปรตุเกส อินโดนีเซีย ศรีลังกา พม่า จีน กัมพูชา ลาว เวียดนาม เป็นต้น พุทธศานิกชนสามารถร่วมอุปถัมภ์การเรียนพระปริยัติของพระภิกษุ สามเณร ได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาสำนักราษฎร์บูรณะ ชื่อบัญชี สำนักศาสนศึกษาวัดจากแดง เลขที่บัญชี 083 377873-0 ปัจจุบันทางวัดกำลังจัดทำโครงการก่อสร้างอาคารเรียนพระไตรปิฎกจากวัสดุรีไซเคิล ซึ่งจะเป็นอาคารต้นแบบที่ส่งเสริมให้คนไทยหันมาใช้วัสดุในการก่อแบบรักษ์โลก (รายละเอียดโครงการในเบื้องต้นตามโปสเตอร์)
นอกจากนี้ วัดจากแดงยังเป็นศูนย์การเรียนรู้สิ่งแวดล้อมให้กับนักเรียน นักศึกษา องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ในการคัดแยกขยะ การแปรรูปเศษอาหาร การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ฯลฯ ซึ่งถือเป็นสถานที่ที่มีความพร้อมมากในการนำขยะพลาสติก โฟม กล่องนม UHT ที่ได้รับบริจาคไปเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลที่เหมาะสม เช่น ขวดพลาสติกใส PET นำไปทำเป็นผ้าจีวรนาโน (ฝีมือตัดเย็บจีวรโดยกลุ่มแม่บ้านในชุมชน) หรือชุด PPE สำหรับใช้ในสถานการณ์โควิด 19, กุฏิสงฆ์จากกล่องนม UHT ที่ช่วยลดอุณหภูมิความร้อนจากภายนอก, น้ำมันเชื้อเพลิงจากถุงพลาสติก หรือขวดพลาสติก, ก้อนอิฐ หรือเก้าอี้ม้านั่ง จากเม็ดโฟมผสมคอนกรีต เป็นต้น ซึ่งเป็นวิธีการที่ช่วยลดปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ลดปริมาณการทำลายระบบนิเวศ (Ecosystem) ช่วยลดภาวะโลกร้อน และยังเป็นการสร้างงานให้กับคนในชุมชนใกล้เคียงซึ่งมีทั้งคนแก่และคนพิการรวมอยู่ด้วย
การดำเนินโครงการร่วมใจรักษ์สิ่งแวดล้อมครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 25 (เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ.2563) สืบเนื่องจากนโยบายของภาครัฐในการลดขยะพลาสติกที่กำลังเป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมของไทย ประกอบกับในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของประเทศไทย ภาครัฐได้ออกมาตรการต่างๆและขอให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ใช้นโยบาย Work from home เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จึงเป็นผลให้พฤติกรรมในการบริโภคของประชากรส่วนใหญ่เปลี่ยนไป ผู้คนในวัยทำงานและวัยกำลังศึกษานิยมสั่งซื้ออาหารและเครื่องดื่มแบบเดลิเวอรี่กันเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาขยะพลาสติกและโฟมเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ดร.ประสิทธิ์ และทีมงานจิตอาสา จึงได้ร่วมกันดำเนินการเก็บ รวบรวม และคัดแยกขยะขวดพลาสติก ภาชนะใส่อาหารและเครื่องดื่มที่ทำจากพลาสติก กล่องนม และกล่องโฟมที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน นำไปบริจาคที่วัดจากแดง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเข้าสู่กระบวนกำจัดขยะที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ และยังเป็นการทำให้ขยะเหล่านี้กลายเป็นผลผลิตใหม่ (Recycle) ที่นำกลับมาให้ใช้งานได้จริง ขยะพลาสติกจำพวกถุงพลาสติก ขวดพลาสติกขุ่น หลอดกาแฟ แก้วพลาสติก ที่ไม่สามารถนำมา recycle ได้อีก ก็จะนำไปเข้าสู่กระบวนการแปรรูปเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับใช้ในรถยนต์ของวัดจากแดง เป็นการลดค่าใช้จ่ายในเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิง อีกทั้งยังเป็นการสร้างงานให้กับคนยากจน ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส (ส่วนใหญ่เป็นคนไทยและต่างชาติที่อาศัยอยู่ในบริเวณชุมชนใกล้เคียงวัดจากแดง)
โครงการนี้แม้เป็นโครงการเล็กๆ แต่ให้คุณประโยชน์มหาศาลต่อสุขภาพและชีวิตของคน พืช และสัตว์ ในระยะยาว เพราะวิถีชีวิตคนในเมืองที่มีความเร่งรีบและต้องใช้ชีวิตแข่งกับเวลาอยู่ทุกวัน ย่อมเป็นเรื่องยากที่จะรณรงค์ให้ผู้คนในเมืองส่วนใหญ่ลดการใช้พลาสติกได้อย่างแท้จริง หากปล่อยให้ทางภาครัฐจัดการขยะพลาสติกเหล่านี้เองตามลำพัง ด้วยวิธีการทำลายแบบฝังกลบ (ใช้เวลาอีกยาวนานกว่าจะขยะพลาสติกจะย่อยสลาย) ซึ่งอาจทำให้เกิดการตกหล่นไปอุดตันในท่อระบายน้ำ หรือไปตกหล่นอยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติ ทำให้เกิดแหล่งเพาะเชื้อโรค ขยะบางส่วนจะถูกกำจัดโดยวิธีที่ไม่ถูกต้อง เช่น เทกองรวมกัน การเผาในเตาแบบไม่มีระบบบำบัดมลพิษทางอากาศ การเผากำจัดกลางแจ้ง เป็นต้น สุดท้ายจะก่อให้เกิดผลเสียต่อระบบนิเวศ (Ecosystem) และทำลายสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติที่อยู่รอบตัวเรา เมื่อเวลาผ่านไปยาวนาน จะก่อให้เกิดธรรมชาติที่ผิดเพี้ยนไป ในที่สุดจะส่งผลกระทบทางลบต่อชีวิตสัตว์ พืช และมนุษย์ ให้ดำรงชีวิตได้อย่างลำบากมากขึ้น
ประธานมูลนิธิและทีมงานจิตอาสา จึงมีความตระหนักและเห็นคุณค่าการทำประโยชน์เพื่อสังคมในด้านสิ่งแวดล้อมว่าเป็นเรื่องที่จำเป็น โดยยืนหยัดที่จะทำต่อไป อย่างน้อยก็เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับหลายๆองค์กรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ได้มีแรงบันดาลใจในการทำความดีเพื่อสังคมและประเทศชาติอย่างไม่มีคำว่า สิ้นสุด เพราะสุดท้ายคนที่ได้รับประโยชน์ที่แท้จริงก็คือพวกเราทุกคน
โครงการร่วมใจรักษ์สิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 24
ดร.ประสิทธิ์ ทีฆพุฒิ ประธานมูลนิธิ และทีมจิตอาสา ได้เดินทางไปวัดจากแดง ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เพื่อบริจาคขวดพลาสติกใส PET ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมภาชนะพลาสติกที่ใช้บรรจุอาหารเดลิเวอรี่ ขวดบรรจุเครื่องดื่มชนิดใสและชนิดขุ่น ถุงพลาสติกที่ใช้ใส่เครื่องดื่ม อาหาร หรือห่อหุ้มพัสดุ ที่ผ่านการใช้งานแล้ว หลอดกาแฟ แก้วน้ำ ช้อนส้อม และกล่องนม UHT กล่องข้าว จานโฟมใส่อาหารที่ผ่านการใช้งานแล้ว โดยจิตอาสาได้เก็บรวบรวมแล้วนำมาทำความสะอาดในเบื้องต้น (เพื่อให้ทางวัดได้นำไปรีไซเคิลใหม่เป็นผ้าจีวรนาโน, ชุด PPE, น้ำมันเชื้อเพลิง, กุฏิสงฆ์, อาคารเรียน, อิฐปูพื้น) และได้ร่วมบริจาคเงินกับทางวัดเพื่อใช้ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้สืบไป เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2567 ปัจจุบันวัดจากแดง มีพระภิกษุไทยและพระเถระต่างชาติ อยู่จำวัดประมาณ 30 กว่ารูป ส่วนในช่วงเปิดภาคเรียนพระปริยัติธรรม จะมีพระภิกษุประมาณ 60 กว่ารูป)
วัดจากแดงนอกเหนือจากจะเป็นศาสนสถานสำหรับประกอบพิธีกรรมทางพุทธศาสนาแล้ว ทางวัดได้เปิดหลักสูตรอบรมพระปริยัติธรรมให้กับพระภิกษุสามเณร และพุทธบริษัททั่วไป ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ได้แก่ อังกฤษ สเปน โปรตุเกส อินโดนีเซีย ศรีลังกา พม่า จีน กัมพูชา ลาว เวียดนาม เป็นต้น พุทธศานิกชนสามารถร่วมอุปถัมภ์การเรียนพระปริยัติของพระภิกษุ สามเณร ได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาสำนักราษฎร์บูรณะ ชื่อบัญชี สำนักศาสนศึกษาวัดจากแดง เลขที่บัญชี 083 377873-0 ปัจจุบันทางวัดกำลังจัดทำโครงการก่อสร้างอาคารเรียนพระไตรปิฎกจากวัสดุรีไซเคิล ซึ่งจะเป็นอาคารต้นแบบที่ส่งเสริมให้คนไทยหันมาใช้วัสดุในการก่อแบบรักษ์โลก (รายละเอียดโครงการในเบื้องต้นตามโปสเตอร์)
นอกจากนี้ วัดจากแดงยังเป็นศูนย์การเรียนรู้สิ่งแวดล้อมให้กับนักเรียน นักศึกษา องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ในการคัดแยกขยะ การแปรรูปเศษอาหาร การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ฯลฯ ซึ่งถือเป็นสถานที่ที่มีความพร้อมมากในการนำขยะพลาสติก โฟม กล่องนม UHT ที่ได้รับบริจาคไปเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลที่เหมาะสม เช่น ขวดพลาสติกใส PET นำไปทำเป็นผ้าจีวรนาโน (ฝีมือตัดเย็บจีวรโดยกลุ่มแม่บ้านในชุมชน) หรือชุด PPE สำหรับใช้ในสถานการณ์โควิด 19, กุฏิสงฆ์จากกล่องนม UHT ที่ช่วยลดอุณหภูมิความร้อนจากภายนอก, น้ำมันเชื้อเพลิงจากถุงพลาสติก หรือขวดพลาสติก, ก้อนอิฐ หรือเก้าอี้ม้านั่ง จากเม็ดโฟมผสมคอนกรีต เป็นต้น ซึ่งเป็นวิธีการที่ช่วยลดปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ลดปริมาณการทำลายระบบนิเวศ (Ecosystem) ช่วยลดภาวะโลกร้อน และยังเป็นการสร้างงานให้กับคนในชุมชนใกล้เคียงซึ่งมีทั้งคนแก่และคนพิการรวมอยู่ด้วย
การดำเนินโครงการร่วมใจรักษ์สิ่งแวดล้อมครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 24 (เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ.2563) สืบเนื่องจากนโยบายของภาครัฐในการลดขยะพลาสติกที่กำลังเป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมของไทย ประกอบกับในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของประเทศไทย ภาครัฐได้ออกมาตรการต่างๆและขอให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ใช้นโยบาย Work from home เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จึงเป็นผลให้พฤติกรรมในการบริโภคของประชากรส่วนใหญ่เปลี่ยนไป ผู้คนในวัยทำงานและวัยกำลังศึกษานิยมสั่งซื้ออาหารและเครื่องดื่มแบบเดลิเวอรี่กันเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาขยะพลาสติกและโฟมเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ดร.ประสิทธิ์ และทีมงานจิตอาสา จึงได้ร่วมกันดำเนินการเก็บ รวบรวม และคัดแยกขยะขวดพลาสติก ภาชนะใส่อาหารและเครื่องดื่มที่ทำจากพลาสติก กล่องนม และกล่องโฟมที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน นำไปบริจาคที่วัดจากแดง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเข้าสู่กระบวนกำจัดขยะที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ และยังเป็นการทำให้ขยะเหล่านี้กลายเป็นผลผลิตใหม่ (Recycle) ที่นำกลับมาให้ใช้งานได้จริง ขยะพลาสติกจำพวกถุงพลาสติก ขวดพลาสติกขุ่น หลอดกาแฟ แก้วพลาสติก ที่ไม่สามารถนำมา recycle ได้อีก ก็จะนำไปเข้าสู่กระบวนการแปรรูปเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับใช้ในรถยนต์ของวัดจากแดง เป็นการลดค่าใช้จ่ายในเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิง อีกทั้งยังเป็นการสร้างงานให้กับคนยากจน ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส (ส่วนใหญ่เป็นคนไทยและต่างชาติที่อาศัยอยู่ในบริเวณชุมชนใกล้เคียงวัดจากแดง)
โครงการนี้แม้เป็นโครงการเล็กๆ แต่ให้คุณประโยชน์มหาศาลต่อสุขภาพและชีวิตของคน พืช และสัตว์ ในระยะยาว เพราะวิถีชีวิตคนในเมืองที่มีความเร่งรีบและต้องใช้ชีวิตแข่งกับเวลาอยู่ทุกวัน ย่อมเป็นเรื่องยากที่จะรณรงค์ให้ผู้คนในเมืองส่วนใหญ่ลดการใช้พลาสติกได้อย่างแท้จริง หากปล่อยให้ทางภาครัฐจัดการขยะพลาสติกเหล่านี้เองตามลำพัง ด้วยวิธีการทำลายแบบฝังกลบ (ใช้เวลาอีกยาวนานกว่าจะขยะพลาสติกจะย่อยสลาย) ซึ่งอาจทำให้เกิดการตกหล่นไปอุดตันในท่อระบายน้ำ หรือไปตกหล่นอยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติ ทำให้เกิดแหล่งเพาะเชื้อโรค ขยะบางส่วนจะถูกกำจัดโดยวิธีที่ไม่ถูกต้อง เช่น เทกองรวมกัน การเผาในเตาแบบไม่มีระบบบำบัดมลพิษทางอากาศ การเผากำจัดกลางแจ้ง เป็นต้น สุดท้ายจะก่อให้เกิดผลเสียต่อระบบนิเวศ (Ecosystem) และทำลายสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติที่อยู่รอบตัวเรา เมื่อเวลาผ่านไปยาวนาน จะก่อให้เกิดธรรมชาติที่ผิดเพี้ยนไป ในที่สุดจะส่งผลกระทบทางลบต่อชีวิตสัตว์ พืช และมนุษย์ ให้ดำรงชีวิตได้อย่างลำบากมากขึ้น
ประธานมูลนิธิและทีมงานจิตอาสา จึงมีความตระหนักและเห็นคุณค่าการทำประโยชน์เพื่อสังคมในด้านสิ่งแวดล้อมว่าเป็นเรื่องที่จำเป็น โดยยืนหยัดที่จะทำต่อไป อย่างน้อยก็เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับหลายๆองค์กรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ได้มีแรงบันดาลใจในการทำความดีเพื่อสังคมและประเทศชาติอย่างไม่มีคำว่า สิ้นสุด เพราะสุดท้ายคนที่ได้รับประโยชน์ที่แท้จริงก็คือพวกเราทุกคน
โครงการร่วมใจรักษ์สิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 23
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2567 ดร.ประสิทธิ์ ทีฆพุฒิ ประธานมูลนิธิ และทีมจิตอาสา ได้เดินทางไปวัดจากแดง ต.ทรงคนอง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เพื่อบริจาคขวดพลาสติกใส PET ขนาด 1.5 ลิตร พร้อมภาชนะพลาสติกที่ใช้บรรจุอาหารเดลิเวอรี่ ขวดบรรจุเครื่องดื่มชนิดใสและชนิดขุ่น ถุงพลาสติกที่ผ่านการใช้งานแล้ว หลอดกาแฟ แก้วน้ำ ช้อนส้อม และกล่องนม UHT จานโฟมใส่อาหารที่ผ่านการใช้งานแล้ว โดยจิตอาสาได้เก็บรวบรวมแล้วนำมาทำความสะอาดในเบื้องต้น (เพื่อให้ทางวัดได้นำไปรีไซเคิลใหม่เป็นผ้าจีวรนาโน, ชุด PPE, น้ำมันเชื้อเพลิง, กุฏิสงฆ์, อิฐปูพื้น) และได้ร่วมบริจาคเงินกับทางวัดเพื่อใช้ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้สืบไป ปัจจุบันวัดจากแดง มีพระภิกษุไทย พระเถระต่างชาติ และสามเณรบวชเรียน ประมาณ 60 กว่ารูป)
วัดจากแดงนอกเหนือจากจะเป็นศาสนสถานสำหรับประกอบพิธีกรรมทางพุทธศาสนาแล้ว ทางวัดยังเปิดหลักสูตรอบรมพระปริยัติธรรมให้กับพระภิกษุสามเณร และพุทธบริษัททั่วไป ทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ได้แก่ อังกฤษ สเปน โปรตุเกส อินโดนีเซีย ศรีลังกา พม่า จีน กัมพูชา ลาว เวียดนาม เป็นต้น พุทธศานิกชนสามารถร่วมอุปถัมภ์การเรียนพระปริยัติของพระภิกษุ สามเณร ได้ที่บัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาสำนักราษฎร์บูรณะ ชื่อบัญชี สำนักศาสนศึกษาวัดจากแดง เลขที่บัญชี 083 377873-0 ปัจจุบันทางวัดกำลังจัดทำโครงการก่อสร้างอาคารเรียนพระไตรปิฎกจากวัสดุรีไซเคิล ซึ่งจะเป็นอาคารต้นแบบที่ส่งเสริมให้คนไทยหันมาใช้วัสดุในการก่อแบบรักษ์โลก (รายละเอียดโครงการในเบื้องต้นตามโปสเตอร์)
นอกจากนี้ วัดจากแดงยังเป็นศูนย์การเรียนรู้สิ่งแวดล้อมให้กับนักเรียน นักศึกษา องค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไป ในการคัดแยกขยะ การแปรรูปเศษอาหาร การทำปุ๋ยหมักชีวภาพ ฯลฯ ซึ่งถือเป็นสถานที่ที่มีความพร้อมมากในการนำขยะพลาสติก โฟม กล่องนม UHT ที่ได้รับบริจาคไปเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลที่เหมาะสม เช่น ขวดพลาสติกใส PET นำไปทำเป็นผ้าจีวรนาโน (ฝีมือตัดเย็บจีวรโดยกลุ่มแม่บ้านในชุมชน) หรือชุด PPE สำหรับใช้ในสถานการณ์โควิด 19, กุฏิสงฆ์จากกล่องนม UHT, น้ำมันเชื้อเพลิงจากถุงพลาสติก หรือขวดพลาสติก เป็นต้น ซึ่งเป็นวิธีการที่ช่วยลดปัญหามลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ลดปริมาณการทำลายระบบนิเวศ ช่วยลดภาวะโลกร้อน และยังเป็นการสร้างงานให้กับคนในชุมชนใกล้เคียงซึ่งมีทั้งคนแก่และคนพิการรวมอยู่ด้วย
การดำเนินโครงการร่วมใจรักษ์สิ่งแวดล้อมครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 23 (เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ.2563) สืบเนื่องจากนโยบายของภาครัฐในการลดขยะพลาสติกที่กำลังเป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมของไทย ประกอบกับในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของประเทศไทย ภาครัฐได้ออกมาตรการต่างๆและขอให้หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ใช้นโยบาย Work from home เพื่อหยุดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จึงเป็นผลให้พฤติกรรมในการบริโภคของประชากรส่วนใหญ่เปลี่ยนไป ผู้คนในวัยทำงานและวัยกำลังศึกษานิยมสั่งซื้ออาหารและเครื่องดื่มแบบเดลิเวอรี่กันเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดปัญหาขยะพลาสติกและโฟมเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว ดร.ประสิทธิ์ และทีมงานจิตอาสา จึงได้ร่วมกันดำเนินการเก็บ รวบรวม และคัดแยกขยะขวดพลาสติก ภาชนะใส่อาหารและเครื่องดื่มที่ทำจากพลาสติก กล่องนม และกล่องโฟมที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน นำไปบริจาคที่วัดจากแดง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเข้าสู่กระบวนกำจัดขยะที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ และยังเป็นการทำให้ขยะเหล่านี้กลายเป็นผลผลิตใหม่ (Recycle) ที่นำกลับมาให้ใช้งานได้จริง ขยะพลาสติกจำพวกถุงพลาสติก ขวดพลาสติกขุ่น หลอดกาแฟ แก้วพลาสติก ที่ไม่สามารถนำมา recycle ได้อีก ก็จะนำไปเข้าสู่กระบวนการแปรรูปเป็นน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับใช้ในรถยนต์ของวัดจากแดง เป็นการลดค่าใช้จ่ายในเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิง อีกทั้งยังเป็นการสร้างงานให้กับคนยากจนและด้อยโอกาสที่วัดจากแดง มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในบริเวณชุมชนใกล้เคียง
โครงการนี้แม้เป็นโครงการเล็กๆ แต่ให้คุณประโยชน์มหาศาลต่อสุขภาพและชีวิตของคน พืช และสัตว์ ในระยะยาว เพราะวิถีชีวิตคนในเมืองที่มีความเร่งรีบและต้องใช้ชีวิตแข่งกับเวลาอยู่ทุกวัน ย่อมเป็นเรื่องยากที่จะรณรงค์ให้ผู้คนในเมืองส่วนใหญ่ลดการใช้พลาสติกได้อย่างแท้จริง หากปล่อยให้ทางภาครัฐจัดการขยะพลาสติกเหล่านี้เองตามลำพัง ด้วยวิธีการทำลายแบบฝังกลบ (ใช้เวลาอีกยาวนานกว่าจะขยะพลาสติกจะย่อยสลาย) ซึ่งอาจทำให้เกิดการตกหล่นไปอุดตันในท่อระบายน้ำ หรือไปตกหล่นอยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติ ทำให้เกิดแหล่งเพาะเชื้อโรค สุดท้ายจะก่อให้เกิดผลเสียต่อระบบนิเวศน์และสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา เมื่อถึงเวลานั้น ธรรมชาติที่ผิดเพี้ยนไปจะกลับมาทำลายชีวิตสัตว์ พืช และมนุษย์ในท้ายที่สุด ประธานมูลนิธิและทีมงานจิตอาสา จึงมีความตระหนักและเห็นคุณค่าการทำประโยชน์เพื่อสังคมในด้านสิ่งแวดล้อมว่าเป็นเรื่องที่จำเป็น โดยยืนหยัดที่จะทำต่อไป อย่างน้อยก็เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับหลายๆองค์กรทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ได้มีแรงบันดาลใจในการทำความดีเพื่อสังคมและประเทศชาติอย่างไม่มีคำว่า สิ้นสุด เพราะสุดท้ายคนที่ได้รับประโยชน์ที่แท้จริงก็คือพวกเราทุกคน
วารสาร มสวท. ปีที่ ๑๖ เล่มที่ ๔ ตุลาคม – ธันวาคม ๒๕๖๖
สารบัญ
หน้า
มูลนิธิสภาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (มสวท.)
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
สถานที่ติดต่อ :
288/52 อาคารมูลนิธิ มสวท. ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220
Tel. +66(0) 2552-5200 Fax. +66(0) 2551-4422 Email : thaifstt@gmail.com
Copyright © 2008-2015 หากมีปัญหาในการรับชมกรุณาติดต่อ Webmaster ที่ admin@thaifstt.org