5)  บุคคลคุณภาพแห่งปี 2018 ด้านเด็กและเยาวชน

คุณนิรมล เมธีสุวกุล (อายุ 57 ปี)

ผู้หญิงหัวใจแกร่ง พิธีกรและผู้ผลิตสื่อสาธารณะเพื่อประโยชน์แก่สังคม

ด้านพัฒนาเยาวชนและสิ่งแวดล้อม

1. หน้าที่ความรับผิดชอบในปัจจุบัน

1. พิธีกรและผู้ควบคุมการผลิตรายการสารคดี “ทุ่งแสงตะวัน” ตั้งแต่ปี พ.ศ.2535- ปัจจุบัน

2. กรรมการและผู้ก่อตั้ง บริษัทป่าใหญ่ ครีเอชั่น จำกัด

3. พิธีกรและผู้ผลิตรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและโรงเรียนในถิ่นธุรกันดาร

4. พิธีกรและผู้ควบคุมการผลิตรายการ “วัยอันตรายเด็กกล้าดี” ออกอากาศช่อง 13 แฟมิลี่

2. ประวัติการศึกษา

          ปริญญาตรี นิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

3. นโยบายและอุดมการณ์ในการทำงาน

            งานสื่อสารมวลชน เป็นงานที่มีภารกิจให้ความรู้ ความคิด แก่สาธารณะ ผู้ผลิตงานต้องมีความรู้ ความสามารถและความรับผิดชอบ และร่วมขับเคลื่อนสังคมให้เป็นไปในทิศทางที่เหมาะสม

4. ความสำเร็จในชีวิตการทำงาน

          ผลิตรายการสารคดีที่มีคุณค่าแก่เด็กและเยาวชนตลอดระยะเวลา 36 ปีที่ผ่านมาในฐานะผู้สื่อข่าวและผู้ผลิตสื่อสาธารณะ

5. ทรรศนะต่อวงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เป็นข้อมูลสำคัญที่ทำให้สาธารณะตระหนักถึงความจริงที่พิสูจน์ได้ เทคโนโลยีที่ก้าวหน้าและเหมาะสมช่วยมนุษยชาติแก้ปัญหาต่างๆของโลกและสังคม

6. กิจการอันเป็นคุณประโยชน์เพื่อสังคม สาธารณกุศล

·       ให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการสร้างบุคลากรคุณภาพออกสู่สังคม

·       ผู้ผลิตสื่อสาธารณะที่อุทิศตนผลิตรายการคุณภาพเพื่อประโยชน์ต่อสังคมในด้านการพัฒนาเยาวชนและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

คุณนิรมล เป็นผู้เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเริ่มทำงานเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์เดอะ เนชั่น เป็นผู้สื่อข่าวฝึกหัดประจำทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภานักข่าวสายทั่วไป เน้นด้านเด็กสตรีและองค์กรพัฒนาเอกชน เป็นผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจช่อง 7 เริ่มมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักตั้งแต่ พ.ศ. 2528 โดยเป็นผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ บริษัท แปซิฟิคอินเตอร์คอมมิวนิเคชั่น ผลิตข่าวให้ช่อง 9 อ.ส.ม.ท. ภายใต้การดูแลของ ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล หลังจากนั้นในปี พ.ศ.2532 คุณนิรมลได้หันมาจับงานพิธีกรเขียนบทสารคดีรายการ “ทุ่งหญ้าป่าใหญ่” ทางช่อง 7 ก่อนที่ในปี พ.ศ.2534 จะย้ายมาทำรายการ “ทุ่งแสงตะวัน” ทางช่อง 3 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งการเปลี่ยนแนวทางการทำงาน ทำให้คุณนิรมลได้มีโอกาสเดินทางและเรียนรู้โลกกว้างตามสถานที่ต่างๆในประเทศไทยที่คนกรุงเทพแม้แต่คนต่างจังหวัดเองก็ไม่เคยสัมผัสหรือได้รับรู้มาก่อน การทำงานนี้ทำให้เธอได้ทำงานในหลายรูปแบบ ต้องอุทิศตนสละความความสุขส่วนตัวมาใช้ชีวิตแบบติดดิน เพราะความแตกต่างระหว่างเมืองกับชนบทก็มีข้อจำกัดและอุปสรรคมากมายให้ฝ่าฟัน โดยเฉพาะการปรับตัวให้เข้ากับการใช้ชีวิตในชนบท เช่น อาหารการกิน ที่อยู่หลับนอน สภาพดินฟ้าอากาศ วัฒนธรรม ภาษาท้องถิ่น รวมถึงการเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวชนบท ฯลฯ การทำงานกับชาวบ้านและเด็กๆ ต้องอาศัยความอดทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศที่ไม่ค่อยเอื้ออำนวยต่อการถ่ายทำ ประกอบกับในช่วง 2-3 ปีแรกของการทำงานนี้ คุณนิรมลต้องศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับจิตวิทยาเด็ก โดยเข้าไปพบหมอเด็กเพื่อพูดคุยหาข้อมูล รวมทั้งค้นคว้าวิจัยด้วยตัวเองเกี่ยวกับเด็ก เพื่อให้สามารถเข้าถึงเด็กได้ดีและลึกซึ้ง ในการทำงานกับเด็กจำเป็นต้องเปลี่ยนบทบาทเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้กันมากกว่า เพราะเรื่องบางเรื่องเด็กในชนบทจะรู้ดีกว่าก็ให้พวกเขาเล่าให้ฟัง ส่วนเรื่องบางเรื่องที่คุณนิรมลรู้ (ความรู้เชิงวิชาการ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี แนวคิดสมัยใหม่ ฯลฯ) ก็จะเป็นผู้ถ่ายทอดและปลูกฝังให้พวกเด็กๆ สิ่งที่คุณนิรมลได้สัมผัสและเรียนรู้ คือ เข้าใจธรรมชาติมากขึ้น และรู้จักการใช้ประโยชน์ของธรรมชาติอย่างรู้คุณค่า ซึ่งเราควรจะรณรงค์เรื่องเหล่านี้ให้มาก เพื่อให้คนทั่วไปเป็นผู้บริโภคที่ดี ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนพืชผักพื้นบ้าน หรือสนับสนุนอาหารที่ไม่รุกรานทำลายธรรมชาติ

 

·       รายการทุ่งแสงตะวัน (ออกอากาศในปี พ.ศ.2535- ปัจจุบัน)

เป็นรายการสารคดีที่ประกอบด้วยเรื่องราวของวิถีชีวิตมนุษย์ การหาอยู่หากิน เรื่องของสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม ประเพณี พิธีกรรมในพื้นที่ชนบทของประเทศไทย โดยนำเสนอผ่านตัวเด็ก เพื่อให้เป็นรายการที่ดูเบาสบายๆ เด็กจะเป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวหรือกิจกรรมที่เด็กทำกันจริง จะไม่พูดถึงปัญหาที่หนักเกินไป เพราะเด็กยังไม่มีบทบาท หรือเข้าใจในเรื่องของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมดีพอ รายการนี้ในช่วงแรกๆผู้ผลิตต้องการให้เป็นรายการสารคดีสำหรับเด็ก แต่เนื่องจากมีกระแสตอบรับจากคนดูทั่วไปที่ให้ความสนใจ จึงได้ขยายกลุ่มเป้าหมายเป็น ประชาชนทั่วไทยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่สนใจเรื่องของสิ่งแวดล้อม เด็กก็จะดูเพื่อนในวัยเดียวกันว่าทำกิจกรรมอะไรบ้าง ส่วนผู้ใหญ่ก็ชวนระลึกถึงอดีตในวัยเด็ก วัตถุประสงค์ของรายการนี้ เพื่อต้องการสื่อให้ผู้ชมเห็นถึงคุณค่าของสิ่งแวดล้อมและร่วมกันดูแลเอาใจใส่สิ่งแวดล้อม อีกทั้งเพื่อให้คนในท้องถิ่น เกิดความภาคภูมิใจตัวเอง และเกิดความหวงแหนธรรมชาติในถิ่นที่อยู่ นอกจากนั้น ก็เพื่อให้เด็กมีความรู้สึกผูกพันกับธรรมชาติ และมีความคิดสร้างสรรค์กิจกรรมต่างๆด้วยตัวเอง

การทำรายการ ทุ่งแสงตะวัน ไม่ได้คาดหวังความร่ำรวย ไม่ใช้การตลาดนำ และเนื่องจากเราอยู่อย่างประหยัดมาตั้งแต่แรก เรียนรู้การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ เราจึงผ่านคลื่นลมช่วงวิกฤตเศรษฐกิจมาได้อย่างไม่เจ็บตัว ที่ผ่านมาบริษัทป่าใหญ่ ครีเอชั่น ไม่มีกำไรมากนักแต่ไม่เคยขาดทุน และเรายังรักษาจิตวิญาณของเราไว้ได้ คือ ยังคงเป็นบริษัทที่จดจำชื่อเด็กๆและทักทายกันได้ตลอดมา

ผลสะท้อนกลับสู่สังคมจากรายการทุ่งแสงตะวัน ได้มีส่วนสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กๆ พร้อมกับแตกหน่อความคิดเรื่องภูมิปัญญาชาวบ้าน วิถีวัฒนธรรมชุมชน สำนึกรักธรรมชาติ และพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงของคนตัวเล็กๆในสังคม ซึ่งรายการนี้ยืนหยัดมาได้ร่วม 26 ปี เพราะสามารถตอบโจทย์บางอย่างแก่คนที่กำลังแสวงหาหลักหมายของชีวิต เช่น การจุดประกายให้เด็กๆเหล่านี้เมื่อเติบโตพวกเขาจะรักชุมชนชาวบ้านและเกิดความภาคภูมิใจในสิ่งที่เป็น เด็กที่ออกจากหมู่บ้านมาเรียนหนังสือหรือทำงานในเมืองรายการนี้จะเป็นสื่อกลางเชื่อมสายสัมพันธ์ระหว่างตัวเขากับชุมชน ทำให้เขามีความหวังว่าสักวันจะได้กลับบ้าน นอกจากนี้ เด็กเมืองกรุงที่ไม่เคยรู้ความแตกต่างระหว่างต้นข้าวกับต้นหญ้า ก็จะได้เปิดโลกกว้างให้กับพวกเขาเชื่อมโยงตนเองกับสิ่งรอบตัวด้วยหัวใจ เป็นต้น

 

·       รายการสารคดี พันแสงรุ้ง (ออกอากาศในปี พ.ศ.2553-2556)

“พันแสงรุ้ง” เป็นรายการเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ เรื่องเล่า วิถีชีวิต วัฒนธรรม โดยมีแนวคิดนำเสนอเรื่องราวความหลากหลายอันงดงามของวิถีชีวิต วัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆทั่วผืนแผ่นดินไทยและอุษาคเนย์ที่อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน โดยอาศัยข้อมูลพื้นฐานจากงานวิจัยวิชาการและการสำรวจข้อมูลจากชุมชน และปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันที่ชาวบ้านอยากจะเล่าให้ฟัง เน้นเนื้อหาถอดเชื่อมโยงความรู้จากนักวิชาการและชุมชมเพื่อสร้างความเข้าใจ นำไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ  คุณนิรมลยอมรับว่า งานสารคดีชิ้นนี้ทีมงานต้องทำงานหนักมาก เพราะต้องทำงานกับนักวิชาการ โดยเฉพาะช่วงเริ่มต้นที่เริ่มเรื่องประวัติศาสตร์ปัตตานี ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ถูกประวัติศาสตร์ระดับชาติกลบไปหมด ทำให้มีการพูดถึงน้อยตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา เราต้องไปพบกับนักวิชาการ ไปพบกับผู้คนในท้องถิ่นเพื่อให้บอกเล่าเรื่องราวที่คนส่วนใหญ่นอกพื้นที่ไม่ค่อยได้รับรู้ ก็เลยรู้สึกว่าสารคดีชุดนี้เป็นสารคดีที่น่าภาคภูมิใจชุดหนึ่ง และคิดว่าจะต้องทำต่อในอีกหลายๆตอน และหากจะนับความยากของสารคดีพันแสงรุ้ง สิ่งที่ยากที่สุดคือ ข้อมูล ต้องลงพื้นที่สำรวจข้อมูลตามความเป็นจริง ตรวจสอบข้อมูลที่เรามี โดยอุปสรรคที่สำคัญมากคือเรื่องภาษา เพราะภาษาแต่ละกลุ่มภาษามีทั้งยากและง่าย มีทั้งเข้าใจและไม่เข้าใจ สิ่งที่เราต้องระมัดระวังเหนือกว่านั้นก็คือบางทีเรานึกว่ารู้เรื่อง แต่จริงๆ แล้วกลับไม่รู้เรื่องเลย เพราะฉะนั้นในฐานะคนทำงานด้านสื่อ สิ่งที่เราเห็นอาจจะไม่เป็นอย่างนั้น มันอาจจะมีเบื้องหลัง มีสิ่งต่างๆ ซึ่งเราต้องทำความเข้าใจ พี่คิดว่าคนทำงานด้านสื่อไม่ใช่แค่ที่ภาคใต้อย่างเดียวนะ หมายถึงที่อื่นๆ ด้วย จะต้องมีดวงตาที่สามที่ไม่ใช่มองแต่สิ่งที่เห็น แต่ต้องพยายามทำความเข้าใจและมองหาสิ่งที่ไม่เห็นด้วย เพื่อจะได้นำมาถ่ายทอดได้หลายๆมิติ”

7. ความภาคภูมิใจและรางวัลเกียรติยศที่ได้รับ

1. ผู้รายงานข่าวดีเด่น ประเภทข่าวและสถานการณ์ปัจจุบัน รายการโทรทัศน์ทองคำ ปี พ.ศ. 2532

2. รางวัลนิสติเก่าดีเด่น นิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (รุ่น 15) ประจำปี พ.ศ.2534-2536

3. รางวัลอนุสรณ์สงขลานครินทร์ ปี พ.ศ. 2549 ในฐานะสื่อมวลชนที่มีผลงานเกี่ยวกับภาคใต้ทั้งด้านปัญหาสิ่งแวดล้อม สังคมวัฒนธรรมและเยาวชน 

4. รางวัลสตรีดีเด่นสาขาสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร ประจำปี พ.ศ. 2551

5. รางวัลนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมดีเด่นและผู้มีคุณูปการต่อการศึกษาของชาติ (รายการทุ่งแสงตะวัน) จากกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปี พ.ศ. 2553

6. รางวัลประเภทสื่อมวลชน(รายการโทรทัศน์)ดีเด่น ปี2556 รายการนิยมไทยดีเด่น สมาคมนิยมไทย

7. รายการทุ่งแสงตะวัน ได้รับรางวัล

·          รายการโทรทัศน์ดีเด่น พ.ศ. 2535-2536 จากสื่อมวลชนคาทอลิกประเทศไทย

·          ผลงานสื่อมวลชนดีเด่นเพื่อเยาวชน พ.ศ.2534-2535, พ.ศ.2538-2539, พ.ศ.2539-2540 จากคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ

·          สารคดีสำหรับเด็กและเยาวชนดีเด่น รางวัลโทรทัศน์ทองคำ ปี พ.ศ.2535

·          สารคดีสำหรับเด็กและเยาวชนดีเด่น รางวัลเมขลา ปี พ.ศ.2535

·          สารคดีสำหรับเด็กและเยาวชนดีเด่น ชมรมสภาวะแวดล้อมสยาม ปี พ.ศ.2535, 2536, 2537

·          รายการเพื่อสิ่งแวดล้อมดีเด่น ปี 2536 ชมรมสภาวะแวดล้อมสยาม

·          รางวัล Award of Special Commendation จากการประกวดแข่งขันรายการโทรทัศน์สำหรับเด็กและเยาวชนในงาน Japan Prize ครั้งที่ 21 ณ ประเทศญี่ปุ่น ปี พ.ศ.2537

·          รายการสารคดียอดนิยมจากสถานีวิทยุเรดิโอโหวต (93.5 เมกะเฮิร์ตซ์) Vote Awards 1993, 1994, 1995, 1996

·          สารคดีสำหรับเด็กและเยาวชนดีเด่น โทรทัศน์ทองคำ ปี พ.ศ.2539

·          รายการโทรทัศน์ซึ่งได้ให้ความสนใจในการรณรงค์เพื่อรักษาสภาวะแวดล้อมที่ดีของประเทศไทย ปี พ.ศ.2541 ชมรมสภาวะแวดล้อมสยาม

8. รายการ “ริมระเบียง” ได้รับรางวัล

·       สารคดีสำหรับเด็กและเยาวชนดีเด่น รางวัลโทรทัศน์ทองคำ ปี พ.ศ. 2537

·       ผลงานสื่อมวลชนดีเด่นเพื่อเยาวชน พ.ศ.2537 จากคณะกรรมการส่งเสริมและประสานงานเยาวชนแห่งชาติ

9. รายการ “ขบวนการคุณสะอาด”

·       สื่อมวลชนดีเด่น เพื่อการอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม รางวัลดีเด่นประเภทสารคดีสั้น สำนักงานคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ปี พ.ศ. 2541

·       รายการโทรทัศน์ซึ่งได้ให้ความสนใจในการรณรงค์เพื่อรักษาสภาวะแวดล้อมที่ดีของประเทศไทย ปี พ.ศ.2541 ชมรมสภาวะแวดล้อมสยาม

8. ประวัติการทำงาน

            ประวัติการทำงาน

·       ผู้สื่อข่าวสายเด็กและสตรี เดอะเนชั่น รีวิว

·       ผู้สื่อข่าวฝึกหัดประจำทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภานักข่าวสายทั่วไป เน้นด้านเด็กสตรีและองค์กรพัฒนาเอกชน

·       ผู้สื่อข่าวสายเศรษฐกิจ สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7

·       ผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ บริษัท แปซิฟิคอินเตอร์คอมมิวนิเคชั่น ผลิตข่าวให้ ช่อง 9 องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย (อสมท.)

·       พิธีกรและเขียนบทรายการ ทุ่งหญ้าป่าใหญ่ ปี พ.ศ. 2532 ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์สีกองทัพบก ช่อง 7

·       บรรณาธิการข่าวและผู้ประกาศข่าวบริษัทอีเอ็มนิวส์ ผลิตข่าวให้สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5

·       พิธีกรและผู้ควบคุมการผลิตรายการสารคดี “ทุ่งแสงตะวัน” ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 แล้วย้ายไปออกอากาศทาง สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสี ช่อง 3 ตั้งแต่ พ.ศ. 2535 จนถึงปัจจุบัน

·       พิธีกรรายการ “พันแสงรุ้ง” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ในปี พ.ศ.2553-2556

·       ผู้ประกาศข่าว ช่องโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัล ช่อง 3 (ช่อง 13 แฟมิลี่)

 

************************

มูลนิธิสภาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (มสวท.)

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

สถานที่ติดต่อ :

288/52 อาคารมูลนิธิ มสวท. ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220

Tel. +66(0) 2552-5200 Fax. +66(0) 2551-4422 Email : thaifstt@gmail.com 

Copyright © 2008-2015 หากมีปัญหาในการรับชมกรุณาติดต่อ Webmaster ที่ admin@thaifstt.org